Custom Search

บทความที่ได้รับความนิยม

Wikipedia

ผลการค้นหา

วันอังคารที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

กาแฟแอสเพรสโซ่ (Espresso)

Latte Art Heart 

ESPRESSO ROAST
เป็นกาแฟคั่วเข้มที่ได้รับความนิยมในหมู่ BankerและLawyerสีน้ำตาลเข้มกาเฟอีนน้อยรสชาติเข้มข้นเป็นกาแฟที่เหมาะที่สุดสำหรับชง เอสเพรสโซด้วยการผสมผสานที่ลงตัวกลิ่นหอมหวน รสชาติที่กลมกล่อม และBody ที่ลงตัว
SPANISH ROAST
เป็นกาแฟที่คั่วเข้มสุดของเดอะกาแฟการ์เต็ล และเป็นกาแฟที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของเราผิวเมล็ดมันจัดกาแฟอีนต่ำผิวเมล็ดสีน้ำตาลไหม้ รสชาติเข้มข้นเจือขมกลิ่นจัดหอมตลบอยู่ในนาสิกแม้จะกินลงคอไปแล้ว Bodyน้อยแต่กลับมี Aftertastesเล็กน้อยที่ยากจะลืมเลือน เป็นกาแฟไทยที่ได้คุณภาพระดับ Colombian Milds
การชงกาแฟ
วิธีการชงกาแฟ (Methods of brewingcoffee) เ ป็นขั้นตอนหนึ่งที่มีผลต่อรสชาติของกาแฟ การต้ม ชงกาแฟ เป็นวิธีการทำให้ผงกาแฟสัมผัสกับน้ำนานพอที่จะขับกลิ่นและรสชาติกาแฟออกมา ทำให้กาแฟมีรสชาติดี การชงกาแฟมีหลายวิธี ดังนี้

1. การชงแบบตุรกี (Turkish coffee หรือibrik) เป็นวิธีที่นิยมในแถบตะวันออกกลาง ใช้ผงกาแฟบดละเอียด น้ำตาลและน้ำ ใส่หม้อต้มเล็กๆ ด้ามยาวที่เรียกว่า Ibrik ต้มจนเดือดทิ้งไว้ให้เย็น แล้วต้มซ้ำอีก 2-3 ครั้ง รินน้ำกาแฟดื่มในถ้วยเล็ก จะได้รสชาติกาแฟและผงกาแฟไปพร้อมๆ กัน

2. การชงแบบใช้เครื่องชงแบบกรวยกรองหรือแบบหยด (Filter method,Drip maker) เครื่องชงที่อาศัยแรงดึงดูดของโลก เทน้ำร้อนลงบนผงกาแฟผ่านที่กรองกระดาษหรือโลหะลงสู่ถ้วยกาแฟ ผงกาแฟบดชนิดหยาบ

3. การชงแบบใช้เครื่องชงแบบก้านกด (Coffee Press,French Press)
เป็นเครื่องชงที่ให้กาแฟที่มีรสชาติดีที่สุด ใช้กาแฟบดชนิดหยาบ เติมน้ำร้อนลงไป คนให้เข้ากันแล้วทิ้งไว้ 2-4 นาที ค่อยๆ กดแผ่นโลหะแยกกากออกจากน้ำกาแฟ เทน้ำกาแฟเสริฟลงถ้วย เครื่องชงที่ดีจะมีแผ่นกรองที่ละเอียด ทำให้เวลาชงไม่มีกากปนอยู่ในน้ำกาแฟมาก

4. การชงแบบใช้เครื่องชงแบบสูญญากาศ (Vacuum method) เป็นเครื่องชงกาแฟประกอบด้วยกระบอกแก้ว 2 ชิ้น กระบอกแก้วด้านล่างใส่น้ำเย็น กระบอกแก้วด้านบนใส่ผงกาแฟ ให้ความร้อนจนน้ำเดือด น้ำเดือดจะถูกดันผ่านท่อขึ้นไปสู่กระบอกแก้วด้านบนสัมผัสกันผงกาแฟ นำความร้อนออก คนน้ำกับผงกาแฟให้เข้ากัน ปล่อยให้น้ำกาแฟไหลผ่านตัวกรองผงกาแฟลงมาสู่ด้านล่างนำกระบอกแก้วส่วนบนออก รินน้ำกาแฟใส่ถ้วย

5. การชงแบบใช้เครื่องชงแบบเอ็สเพรสโซ่ (Espresso) เครื่องชงโดยใช้ความดันอันน้ำร้อน อุณหภูมิ 93-96 องศาเซลเซียส ไหลผ่านกาแฟในเวลาอย่างน้อย 20 วินาที ได้กาแฟดำเข้มเหนียวเป็นยาง รสชาติเข้มข้น เครื่องชงแบบเอ็สเพรสโซ่มีหลายขนาดทั้งขนาดใช้ในครัวเรือนหรือแบบการค้าสามารถชงได้จำนวนมากและมีอุปกรณ์เพิ่มเช่นเครื่องทำฟองนม เป็นต้น

คำว่า แอสเพรสโซ่ (Espresso) เป็น คำในภาษาอิตาเลียน มาจากภาษาลาตินว่า Esprimere แปลว่า กดหรือดัน เป็นกาแฟที่รู้จักกันดี หมายถึง กาแฟดำที่ชงจากกาแฟ โดยผ่านเครื่องชงที่ใช้ความดัน แต่ในความหมายตามมาตรฐานหมายถึง กาแฟเข้มข้นที่ชงจากเมล็ดกาแฟที่คั่วในระดับคั่วปานกลางถึงคั่วแก่ ผ่านการบดอย่างละเอียด ใช้ปริมาณ 7-9 กรัม สกัดด้วยน้ำร้อนภายใต้แรงกดดันระหว่าง 9-10 บาร์ จะได้ปริมาณน้ำกาแฟเข้มข้นปริมาตรระหว่าง 1-1.25 ออนซ์ หรือ 38 มิลลิลิตร ใช้เวลาอยู่ในช่วง 20-30 วินาที เสริฟในถ้วยกาแฟขนาด 60 มิลลิลิตร ที่อุ่นให้ร้อน กาแฟเอสรเพรสโซ่ สามารถนำมาเป็นส่วนผสมหลัก ร่วมกับส่วนผสมอื่นๆ เช่น นม น้ำเชื่อม ฯลฯ ใช้ชงกาแฟชนิดต่างๆ (Espresso Traditional) เช่น คาเฟ่ลาเต้ ใช้กาแฟเอสเพสโซ่ 1 shot กับนมร้อนที่ถูกทำให้ร้อนด้วยแรงดันไอน้ำ 
  
กาแฟเอสเพรสโซ่ Single shot   = 1 ออนซ์ oz. ใช้กาแฟ 8 กรัม
  
กาแฟเอสเพรสโซ่ Double shot = 2 ออนซ์ oz. ใช้กาแฟ 16 กรัม
วิธีการดื่มกาแฟแอสเพรสโซ่ ต้อง ยกดื่มทีเดียวให้หมด อมไว้ในปากสักครู่ค่อยๆ กลืนโดยไม่ดื่มน้ำตาม กาแฟอาราบิก้าจะรู้สึกถึงรสชาติหวานกลมกล่อมของน้ำตาลคาราเมลที่เคลือบอยู่ บนเมล็ดกาแฟคั่ว กาแฟเอสเพรสโซ่จากกาแฟโรบัสต้า จะขมฝาด

สิ่งที่ควรคำนึงในการชงกาแฟคั่วบด       
1. กาแฟควรเป็นกาแฟใหม่ บดละเอียดขนาดเหมาะกับวิธีชง
       
2. ใช้น้ำบริสุทธิ์ สะอาด ปราศจากสารเคมีและสิ่งเจือปนต่างๆ
       
3. อุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการชงกาแฟคือ 94-96 องศาเซลเซียส หรือน้ำเดือดยกลงและปล่อยทิ้งไว้สักครู่น้ำเดือดจัดอุณหภูมิ 100 องศาเซลเซียส จะลวกผงกาแฟ ทำให้ส่วนไขมันที่เป็นแหล่งให้กลิ่น รส เสียไปและได้กาแฟรสขม
       
4. สัดส่วนที่พอเหมาะระหว่างน้ำกับกาแฟ เช่น เครื่องใช้กระดาษกรองหรือก้านกดสัดส่วนที่เหมาะสมที่สุด คือผงกาแฟ 10 กรัม ต่อน้ำ 180 มิลลิลิตร
      
5. บดกาแฟให้ละเอียด - หยาบ เหมาะสมกับเครื่องชง
       
6. กาแฟชงแล้ว สามารถทำให้เจือจางได้แต่ไม่สามารถทำให้เข้มข้นขึ้นได้
       
7. เสริฟและดื่มหลังชงกาแฟใหม่ๆ จะได้กาแฟที่หอมกรุ่นและรสชาติดี
       
8. เครื่องมือเครื่องใช้ แก้วกาแฟ ต้องสะอาด กาแฟจะมีน้ำมันทิ้งคราบไว้ทำให้เกิดกลิ่นอันชื้นได้ คราบสบู่เพียงเล็กน้อยมีผลต่อรสชาติกาแฟในการชงครั้งต่อไป
       
9. ไม่ควรนำกาแฟที่ชงไว้นานแล้วมาอุ่นให้ร้อนอีกครั้งหรืออุ่นกาแฟร้อนนานเกิน 40 นาที ควรต้มกาแฟใหม่และต้มในปริมาณที่ต้องการเท่านั้น เพราะกาแฟจะมีรสชาติดีที่สุด
      
10. เมล็ดกาแฟคั่วบดที่ใช้แล้ว ไม่กลับนำมาใช้ชงอีก
เรียบเรียงข้อมูลโดย manman

รายการบล็อกของฉัน